Monday, November 30, 2009

เภสัชกร..6 ปี

เภสัชกร..6 ปี

งานคือการปฏิบัติธรรม

คัดมาเล่าบางประโยค เภสัชกร Pharm D

ประโยคต่างๆ ของ ภญ.กฤษณา ไกรสินธ์

หมอยอมรับไหม ที่จะเอาเภสัชกรขึ้นวอร์ดด้วย ที่ผ่านมาหมอยอมรับก็เฉพาะที่

เป็นสามีภรรยา เราต้องยอมรับความจริงอย่างนี้ด้วย

มันก้าวหน้าไม่ได้หรอกค่ะ แหมไปนั่งวิจารณ์ใบสั่งยาหมอ ไปนั่งสั่งยาด้วยกัน มี

หมอคนไหนจะยอม

พี่กับพี่อัจฉรา พ่อเป็นหมอทั้งคู่ เรารู้ว่าไม่มีทางฟังใครหรอก

แต่ระบบยาในโรงพยาบาล ก็ยังต้องการเภสัชกรอยู่

ก็ใช่... แต่การขึ้นวอร์ดคู่กับหมออันนี้คือพี่ห่วง

เภสัชกร และ ท่านอื่นๆ คิดอย่างไรครับ


เมื่อ ได้ยึดข้อคิด แบบนี้ แล้ว เภสัชกรอย่างผม คิดได้ง่ายมากๆ ว่า

ผมจะขึ้นวอร์ดคู่กับแพทย์หรือไม่ คำตอบคือไม่


เพราะ ที่อุบลรัตน์มี หมอ 3.5 คน ทันตแพทย์ 2 คน แต่มีเภสัชกรเพียง 2.5 คน

ผมคงไม่มีเวลาไปเดิน วอร์ดคู่มือกับแพทย์แน่นอน

ในการทำงาน ในช่วงแรก เราต้องการให้หมอยอมรับ เรื่องนั้นไม่ใช่ประเด็น

ประเด็น คือ เภสัชกร ต้องดูแลประชาชน จะทำแบบไหนก็ได้ ไม่ได้ไปเน้น ว่า

ต้องไปขึ้นวอร์ดคู่กับแพทย์ครับ

แต่เภสัชกร ต้องมีทักษะจริงๆ ที่จะช่วยดูแลผู้ป่วยได้ครับ


โดยเภสัชกร ควรมีพื้นความรู้ที่จำเป็น และมีใจรักในงานบริบาลผู้ป่วย


และประสบการณ์ ในการดูแลผู้ป่วยมากพอสมควร

การไปเยี่ยมผู้ป่วยที่วอร์ด

การเขียนบันทึก progress note การทำ care plan

จำเป็น โดยเภสัชกร สามารถ ไปติดตามดูแลผู้ป่วยที่บ้านได้อย่างสะดวก

เนื่องจากใน วอร์ดหรือ โอพีดี ก็มีพยาบาลกับแพทย์เป็นเจ้าพื้นที่อยู่แล้ว

ส่วนที่บ้าน มีคนไข้ที่มีปัญหาด้านยาและสุขภาพมากมาย รอให้เราช่วยอยู่ครับ

แล้วที่บ้าน แค่เภสัชกร ไป เยี่ยมถึงบ้านคนไข้ ก็ได้ใจคนไข้เต็มๆ แล้วครับ

สรุป

เภสัชกร ไป วอร์ด หรือไม่ ไม่สำคัญเท่ากับ intervention ที่

เภสัชกร ทำให้คนไข้แล้ว


ลดอัตราการตายของผู้ป่วย ลงได้ ร้อยละ 50 แบบนี้ ดีกว่า จ้า

หมวดหมู่: ข้อคิดชีวิต ปรัชญา ศาสนา
สัญญาอนุญาต: ซีซี: แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน Cc-by-nc-sa
สร้าง: อ. 24 พ.ย. 2552 @ 23:42 แก้ไข: พ. 25 พ.ย. 2552 @ 00:08

ความเห็น

1.
P
น้องซิลเวีย
เมื่อ อ. 24 พ.ย. 2552 @ 23:56
#1695046 [ ลบ ]

สวัสดีค่ะอาจารย์

  • น้องซิลเวียคิดว่า..ระบบงานแบบใหม่..เภสัชกร round ward ในช่วงแรกๆอาจจะดูไม่ชินตาเท่าไรนัก
  • แต่ตอไป...อาจกลายเป็นความจำเป็นและขาดเสียไม่ได้ค่ะ
  • อันนี้เป็นความเห็น..ที่มาจากความรู้อันน้อยนิดของนักศึกษา คณะเภสัชศาสตร์เท่านั้นค่ะ
  • แวะเข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วยความเคารพค่ะ
2.
P
นาย ศุภรักษ์ ศุภเอม
เมื่อ พ. 25 พ.ย. 2552 @ 00:14
#1695070 [ ลบ ]

ขอให้ น้องซิลเวีย


P

น้องซิลเวีย


ตั้งใจศึกษาให้มากๆครับ น้องลองไปอ่าน


บล็อคเก่าๆ ของผมก็แล้วกัน


http://gotoknow.org/blog/frxbaby

http://gotoknow.org/blog/primarycarerx

http://gotoknow.org/blog/sharp-article


คงจะเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นครับ

3.
P
วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--
เมื่อ พ. 25 พ.ย. 2552 @ 01:02
#1695100 [ ลบ ]

สวัสดีครับท่านศุภรักษ์ นับถือท่านเป็นเภสัชพันธ์หายากครับ กับคำพูดที่ชัดเจน

"เภสัชกร ไป วอร์ด หรือไม่ ไม่สำคัญเท่ากับ intervention ที่

เภสัชกร ทำให้คนไข้แล้ว "

ขอคาระวะครับท่าน

4.
P
ณัฐรดา
เมื่อ พ. 25 พ.ย. 2552 @ 05:22
#1695137 [ ลบ ]

สวัสดีค่ะ

ข้างบ้านมีร้านขายยาอยู่ร้านหนึ่ง น้องเภสัชกรน่ารักมากเลยค่ะ อธิบายเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับยาแก่ผู้ซื้ออย่างกระจ่างแจ้ง

สามีเป็นหมอฟัน เค้าให้ความเห็นว่า แพทย์ เป็นอาชีพเดียวที่ผิดพลาดไม่ได้ เพราะพลาดไปก็หมายถึงชีวิตคน

ดังนั้นหน้าที่การงานจึงมีโอกาสที่จะสร้างนิสัยเชื่อมั่นในตนเอง ในความเห็นตนเองมากไปให้กับตัวเอง

แหม

แต่นั่นไม่ใช่ข้ออ้างที่จะไม่ฟังคนอื่นหรอกนะคะ

เพียงแต่ถ้าเรารู้ไม่ทันว่าพื้นฐานของอาชีพมีส่วนในการสร้างนิสัย เราก็คงหลงไปกับมันน่ะค่ะ

5.
P
นาย ศุภรักษ์ ศุภเอม
เมื่อ พ. 25 พ.ย. 2552 @ 07:32
#1695263 [ ลบ ]

ขอบคุณ ท่าน

P

วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei--

ที่มาเยี่ยมชมครับ

ไปอยุธยา สนุกไหมครับ

6.
P
นาย ศุภรักษ์ ศุภเอม
เมื่อ พ. 25 พ.ย. 2552 @ 07:33
#1695265 [ ลบ ]

ขอบคุณ คุณ

P

ณัฐรดา

ที่มาเป็นกำลังใจครับ

เภสัชกร คงต้องทุ่มเทมากกว่า นี้

และทำแะไรที่แตกต่างเพื่อประชาชนครับ

7.
P
นาย สามารถ เศรษฐวิทยา
เมื่อ พ. 25 พ.ย. 2552 @ 12:07
#1695739 [ ลบ ]

สวัสดีครับพี่ แวะมาทักทาย วันนี้ออกไปช่วยชาวบ้านแถวไหนครับ

8.
P
นาย ศุภรักษ์ ศุภเอม
เมื่อ พ. 25 พ.ย. 2552 @ 12:34
#1695785 [ ลบ ]

เมื่อวาน ผมไม่สบาย

มีคนไข้ตายเลย 1 ราย เสียดายไม่ได้ไปดูใจ

วันพุธ กับวัน จันทร์ ไปบ้านศรีสุข ครับ

วันอื่นๆ ไปทั่วอำเภอ เอาแน่ไม่ได้

คืนมีนี้ มีนัดกับแม่ม่าย(ยายทอง) ครับ

9.
P
นาย สามารถ เศรษฐวิทยา
เมื่อ พ. 25 พ.ย. 2552 @ 12:42
#1695806 [ ลบ ]

ไปตอนกลางคืน ไปรักษายายทอง ยายทองเป็นแม่ม่าย เอา เป็นกำลังใจให้ครับ 555555555 ขอให้หายไข้เร็วน่ะครับ

10.
P
nussa-udon
เมื่อ พ. 25 พ.ย. 2552 @ 20:49
#1696775 [ ลบ ]

แล้วที่บ้าน แค่เภสัชกร ไป เยี่ยมถึงบ้านคนไข้ ก็ได้ใจคนไข้เต็มๆ แล้วครับ

สุดยอดค่ะ..มาเป็นกำลังใจให้ค่ะ

11.
P
นาย ศุภรักษ์ ศุภเอม
เมื่อ พ. 25 พ.ย. 2552 @ 21:21
#1696870 [ ลบ ]

ขอบคุณ คุณพยาบาล

P

nussa-udon

มาก ที่มาให้กำลังใจครับ

12.
P
นาย สามารถ เศรษฐวิทยา
เมื่อ พ. 25 พ.ย. 2552 @ 22:38
#1697097 [ ลบ ]

หายไข้แล้วหรือยังครับพี่หมอ

13.
P
ขจิต ฝอยทอง
เมื่อ จ. 30 พ.ย. 2552 @ 13:21
#1705928 [ ลบ ]

มาบอกว่าสงสารเภสัชกร ได้ขึ้นวอร์ดไม่เต็มคน ดูนะ (แต่มีเภสัชกรเพียง 2.5 คน)

14.
P
Anek Thanonghan
เมื่อ จ. 30 พ.ย. 2552 @ 18:28
#1706604 [ ลบ ]

เห็นเภสัชกร ที่เขียนประเด็นได้สนุกอีกคนใน G2K

ยินดีมากครับ

15.
P
นาย ศุภรักษ์ ศุภเอม
เมื่อ จ. 30 พ.ย. 2552 @ 20:58
#1707051 [ ลบ ]

เรียน น้อง


P

นาย สามารถ เศรษฐวิทยา

หายไข้เลยครับ


วันเสาร์เจอคนไข้โคม่า 555

4 comments:

  1. ผมเป็นเภสัชกรคนหนึ่งที่ทำงานด้าน pharm care ปฏิบัติงานบนหอผู้ป่วยมาเป็นเวลา 6 ปี สมัยเรียนปี 1-4 ผมเป็นคนหนึ่งที่ anti หลักสูตรบริบาลเภสัชกรรมเพราะเข้าใจเอาเองว่าเป็นหน้าที่ที่ไม่มีความสำคัญและไปแย่งหน้าที่ของแพทย์ในการทำหน้าที่ แต่ด้วยบุคลิกผมเป็นคนที่ชอบค้นหาความจริงและไม่ชอบใช้อคติตัดสินอะไรง่ายๆเพราะตอนนั้นผมคิดว่าถ้าหน้าที่นี้ไม่มีความสำคัญจริงทำไมงานนี้ในอเมริกาจึงรุ่งเรืองนัก

    ReplyDelete
  2. ผมจึงตัดสินใจสมัครเข้าเรียนในหลักสูตร pharm.D ต่อเนื่องควบคู่กับการเรียนปี 5 ตอนนั้นผมเลือกเรียนสาขาวิชาต่างๆของเภสัชให้มากที่สุดเพราะผมชอบเกือบทุกวิชาของเภสัชและการแพทย์สาขาอื่นๆเพื่อดูว่าตัวเองเหมาะกับงานไหนมากที่สุดก่อนที่จะเรียนจบไปทำงาน (ผมเป็นรุ่นสุดท้ายที่เรียนหลักสูตร 5 ปีของ มน.)ตอนเรียน pharm.D อาจารย์เข้มงวดกับพวกผมมาก สอนราวกับว่าเรามีสิทธิสั่งยารักษาคนไข้เอง ต้องคิดต้องประเมิน ต้องติดตาม ต้องระวังอะไรมากมายกว่าจะออกมาเป็น regimen ยาแต่ละครั้ง ซึ่งตอนนั้นก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำถึงขนาดนั้น แถมยังแอบคิดในแง่ไม่ดีกับอาจารย์บ้างบางครั้งและในที่สุดก็ลาออกหลังจากเรียนไปได้ 1 เทอมแต่ก็ได้เรียนและเก็บเกี่ยวแนวคิดของเภสัชกรคลินิกไปได้ไม่น้อย

    ReplyDelete
  3. แต่ตอนนั้นก็ยังคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้อย่างที่ ภญ.กฤษณาว่าไว้ พอเรียนจบปีแรกผมไปใช้ทุนใน รพ.ชุมชนเล็กๆแถวอิสานที่มีเภสัชแค่คนเดียว ผมต้องทำงานทุกอย่างที่เภสัชทั่วไปพึงทำแถมยังเอางานบริบาลไปใช้ทุกครั้งที่มีโอกาสเพราะต้องการพิสูจน์ว่าเป็นไปได้จริงมั้ย ซึ่งผมอยากจะย้ำแนวคิดเหมือนพี่ ศุภรักษ์ ศุภเอม เจ้าของเวปบล็อคว่างานบริบาลเภสัชกรรมอย่าคิดว่ามันแค่ ward round เท่านั้นแต่มันเป็นจิตวิญญาณที่เภสัชกรทุกคนพึงมี ไม่อย่างนั้นมันจะทำให้การทำหน้าที่ของคุณไม่สมบูรณ์ มีเภสัชกรจำนวนไม่น้อยที่บอกว่าตัวเองเป็นผู้รู้เรื่องยาดีที่สุดแต่เขาเหล่านั้นกลับไม่สามารถอธิบายเหตุผลให้ผู้ป่วยของเค้าได้ว่าเหตุใดแพทย์จึงสั่งจ่ายยาชนิดนั้นให้ผู้ป่วย และยังถูไถไปว่าเป็นดุลยพินิจของแพทย์ แถมยังปลอบใจตัวเองอีกว่าแพทย์เค้าคงคิดมาดีแล้ว เราทำหน้าที่แค่จ่ายยาให้ตรงตามแผนการรักษาก็พอ ถ้าใครคิดอย่างนี้ก็อยากให้ถามตัวเองว่า หน้าที่ในฐานะเภสัชกรทำได้เต็มภาคภูมิหรือยัง ปัจจุบันผมค้นหาความจริงที่ผมสงสัยมานานเจอแล้ว "งานบริบาลเภสัชกรรมจำเป็นหรือไม่สำหรับระบบสาธารณสุขเมืองไทย" ผมตอบได้อย่างมั่นใจว่าจำเป็น และจำเป็นด้วยว่าเภสัชกรจะต้องทำความเข้าใจและลงมือปฏิบัติให้เห็นจริงกับตัวเอง โดยไม่ต้องไปว่าตามใคร ผมทำงานบนหอผู้ป่วยอย่างมีความสุข แถมยังเป็นที่ปรึกษาให้กับงานอื่นๆทั้งงานเภสัชและฝ่ายอื่นๆอีกมากมายโดยได้แนวคิดจากงานบริบาลได้ช่วยฝึกฝนให้ผมเข้าถึงงานอื่นๆอยู่เสมอ งานบริบาลจะเป็นตัวเชื่อมอย่างดีให้เราเข้าใจผู้อื่นและงานอื่นๆได้อย่างยอดเยี่ย มทุกคนให้การยอมรับโดยเฉพาะแพทย์ ผมสามารถวิจารย์การสั่งยาของพวกเค้าโดยที่เค้าไม่ได้ต่อต้านผม แถมยังขอความเห็นและมอบงานสำคัญๆให้เสมอๆ ผมก้าวมาอยู่ในจุดที่คนทั่วไปโดยเฉพาะเภสัชด้วยกันคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่ผมได้ทำให้มันเกิดขึ้นแล้วโดยใช้เวลาแค่หกปี มันเป็นศิลปะที่เภสัชต้องเรียนรู้ไม่ใช่จะมัวโทษคนนั้นคนนี้ว่าเค้าคงไม่ยอมรับและไม่คิดจะทำอะไรให้วิชาชีพของตัวเองมีประดยชน์ต่อสังคมให้มากที่สุด ทุกวันนี้ผมมีความสุขจากการได้เห็นสิ่งที่ผมทำมันเกิดประโยชน์ต่อผู้ป่วยและเพื่อนร่วมงานของผมทุกคนครับ

    ReplyDelete
  4. อยากฝากให้เภสัชกรที่ทำงานต่างสาขากัน หากเราไม่ได้เข้าใจสาขาอื่นๆอย่างลึกซึ้งหรือได้ลองปฏิบัติด้วยตนเองอย่างแจ่มแจ้ง การวิพากวิจารณ์กันโดยใช้อคติของตนเองอาจบั่นทอนกำลังใจงานอื่นๆที่เค้าเพียรพยายามสร้างมันมา เพราะถ้าแม้แต่เภสัชด้วยกันยังไม่เข้าใจกันเองก็อย่างหวังว่าใครคนอื่นจะมาเข้าใจ ทำอะไรก็ได้ครับ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นและไม่เบียดเบียนกันเอง

    ReplyDelete